รีวิว Redmi Note 14 | Note 14 Pro+ 5G รุ่นกลางตัวฮิต กล้อง AI ถ่ายสวย กับ ความทนทานที่เหนือชั้น

โดย RingRangRung | 11 มกราคม 2568 เมื่อ 08:30 น.
รีวิว Redmi Note 14 | Note 14 Pro+ 5G รุ่นกลางตัวฮิต กล้อง AI ถ่ายสวย กับ ความทนทานที่เหนือชั้น

รีวิว Xiaomi Redmi Note 14 และ Redmi Note 14 Pro+ 5G สมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่เพิ่งเปิดตัวในไทย โดยพร้อมกล้อง Ultra-clear AI Camera ความละเอียดสูงสุด 200MP และความทนทานมาตรฐานเรือธง

เปิดตัวในไทยเป็นที่เรียบร้อยกับ Redmi Note 14 Series มือถือรุ่นใหม่จากตระกูล Redmi Note Series ของ Xiaomi หนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและขายดีที่สุดของแบรนด์ ด้วยคุณสมบัติการเป็นมือถือรุ่นระดับกลางที่ให้ประสิทธิภาพคุ้มราคา

ในรีวิวนี้ ทาง MX ก็มีโอกาสได้มาลองเล่นทั้งรุ่น Redmi Note 14 และ Redmi Note 14 Pro+ 5G ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ก็ตามมาดูกันได้เลย

แกะกล่อง

ทั้ง Xiaomi Redmi Note 14 และ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาในกล่องสีขาว ด้านหน้ามีภาพเครื่องและชื่อรุ่นระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งขนาดกล่องของ Redmi Note 14 ที่เป็นตัวมาตรฐานจะเล็กกว่าของ Note 14 Pro+ 5G ที่เป็นรุ่นใหญ่สุดของซีรีส์เล็กน้อย ส่วนอุปกรณ์ในกล่องจะมีดังนี้

Redmi Note 14: อะแดปเตอร์ 33W / สายชาร์จ USB-C / เคส / ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) / อุปกรณ์ถอดถาดซิม / คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

Redmi Note 14 Pro+ 5G: อะแดปเตอร์ 120W / สายชาร์จ USB-C / เคส / ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) / อุปกรณ์ถอดถาดซิม / คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

ดีไซน์

แม้ว่าจะมาจากตระกูลเดียวกันแต่ดีไซน์ของ Redmi Note 14 และ Redmi Note 14 Pro+ 5G ถือว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่ หน้าจอ บอดี้ หรือ โมดูลกล้อง

Redmi Note 14

หากว่ากันด้วยดีไซน์มือถือรุ่นนี้มีการปรับเปลี่ยนจากรุ่น Redmi Note 13 แค่เพียงเล็กน้อย โดยที่ยังคงเน้นสวยงาม เรียบง่าย

ตัวเครื่องออกแบบให้แบนเรียบทั้งส่วนที่เป็นฝาหลัง หน้าจอ และขอบด้านข้าง โดยมีสัดส่วนตัวเครื่องอยู่ที่ 163.25 x 76.55 x 8.16 มม. และหนัก 196.5 กรัม ส่วนสีที่วางจำหน่ายประกอบด้วย Midnight Black, Mist Purple, Lime Green

เครื่องในรีวิวของเราจะเป็นสี ม่วง Mist Purple ที่ฝาหลังเป็นลายคลื่นหมอกไล่เฉดจากขาวไปม่วงมีประกายกลิตเตอร์สวยงาม ซึ่งความสวยงามนี้ก็มาพร้อมกับความทนทาน โดยที่ Redmi Note 14 มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 สามารถรับมือกับฝุ่นและน้ำที่จะกระเด็นมาโดนได้สบาย ๆ ส่วนพื้นที่หน้าจอก็ได้รับการปกป้องด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5

จุดเปลี่ยนจากรุ่น Redmi Note 13 ที่เห็นได้ชัดจริงๆ คือการจัดวางตำแหน่งตรงโมดูลกล้องหลัง ซึ่งรุ่นนี้ยังคงใช้โมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยมแต่ปรับมุมขอบให้โค้งมากขึ้น และปรับตำแหน่งกล่องเสริมตัวที่ 3 ซึ่งอยู่ทางขวา ให้มาอยู่ในช่วงตรงกึ่งกลางระหว่างกล้องอีกสองตัว รวมถึงปรับแฟลช LED ให้เป็นทรงแคปซูล ช่วยให้ดูสมมาตร และทันสมัยขึ้น

ในส่วนขององค์ประกอบอย่างปุ่มพาวเวอร์ และ ตัวปรับระดับเสียง จะอยู่ด้านขวา มีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ขอบด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ลำโพง พอร์ต IR Blaster กับไมค์ตัดเสียงรบกวน ขณะที่ฐานเครื่องด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C, ลำโพง, ไมโครโฟน และช่องใส่ซิมการ์ด

เรื่องของหน้าจอ Redmi Note 14 ให้พาแนล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz รองรับ HDR10+ Dolby Vision และความสว่างสูงสุด 1800 nits มีกล้องหน้าแบบเจาะรู

Redmi Note 14 Pro+ 5G

มือถือรุ่นนี้มีการอัปเดตดีไซน์ ให้สมกับเป็นตัวท็อปของรุ่นกลาง โดยดีไซน์แบบขอบโค้งทั้งหน้าจอ ขอบเครื่อง และฝาหลัง ให้ความรู้สึกพรีเมียมเมื่ออยู่บนมือ

Redmi Note 14 Pro+ 5G มีตัวเครื่องขนาด 162.5 x 74.6 x 8.7 mm และหนัก 210g สีที่วางจำหน่ายประกอบด้วย Lavender Purple, Frost Blue และ Midnight Black ซึ่งเป็นเครื่องที่อยู่ในรีวิวนี้

ตัวเครื่องด้านหน้าคลุมทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ที่มีความทนทานต่อการตกกระแทก และรวมถึงการตกบนพื้นผิวที่แข็งและหยาบ อาทิเช่น พื้นคอนกรีต หรือ พื้นถนน ในระดับความสูง 1 – 2 เมตร รวมถึงมีคุณสมบัติการป้องกันรอยขีดข่วนเอาไว้อย่างครบถ้วน ส่วนด้านหลังเป็น Gorrila Glass 7i และมีมาตรฐาน IP68 สามารถทนน้ำลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานสุดถึง 30 นาที ใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปได้สบายๆ

ฝาหลังของรุ่นสีดำจะเป็นผิวแมตต์ป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือบนเครื่องได้เป็นอย่างดี ขณะที่กล้องหลังเป็นโมดูลทรงสี่เหลี่ยมขอบมน ดูคล้ายกับโลโก้ Mi บริเวณขอบโมดูลกล้องถูกออกแบบให้คล้ายหน้าปัดนาฬิกา มีการจัดเรียงกล้องหลัง 3 ตัว และแฟลช LED เป็นทรงสี่เหลี่ยม

ปุ่มพาวเวอร์ และ ตัวปรับระดับเสียง จะอยู่ด้านขวา มีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ขอบด้านบนมี ลำโพง, พอร์ต IR Blaster กับไมค์ตัดเสียงรบกวน ขณะที่ฐานเครื่องด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C, ลำโพง, ไมโครโฟน และช่องใส่ซิมการ์ด

เรื่องของหน้าจอ Redmi Note 14 Pro+ 5G ให้พาแนล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220×2712 พิกเซล รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz รองรับ HDR10+ Dolby Vision และความสว่างสูงสุด 3000 nits ดูคอนเทนท์ หรือใช้งานกลางแจ้งก็ทำได้สบายๆ รวมถึงมีมาตรฐานถนอมสายตา TÜV Rheinland Low Blue Light Certification, TÜV Rheinland Circadian Friendly Certification และ TÜV Rheinland Flicker Free Certification ส่วนกล้องหน้าก็เป็นแบบเจาะรูเหมือนรุ่นมาตรฐาน

ประสิทธิภาพและการใช้งาน

Redmi Note 14 / Note 14 Pro+ 5G ใช้ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS บนพื้นฐาน Android 14 หน้าตา UI ก็จะเน้นความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้

นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่ ๆ รวมถึงคุณสมบัติ AI จาก Google ไม่ว่าจะเป็น Circle to Search หาสิ่งที่เห็นบนจอได้ทันทีแค่วงไฮไลต์ หรือ Gemini คุยกับผู้ช่วย AI จาก Google ซึ่งเป็นหนึ่งใน AI ที่ฉลาดที่สุดในปัจจุบัน

ขณะที่ AI ของ Xiaomi เองก็มีให้เล่น อาทิเช่น

  • AI Interpreter: คุณสมบัติการแปลแบบเรียลไทม์โดยมีโหมดการทำงาน 2 โหมดหลัก ได้แก่ การแปลแบบเห็นหน้า (face-to-face) และการแปลทางโทรศัพท์/การประชุม (Phone/conference call) ซึ่งปัจจุบันระบบรองรับ 12 ภาษา ได้แก่ จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส อิตาลี เยอรมัน รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ฮินดี อินโดนีเซีย โดยมีแผนจะเพิ่มภาษา ไทย มาเลย์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ผ่านการอัพเดต OTA ในเร็วๆ นี้
  • AI Photo Edit: ยกระดับการแก้ไขภาพด้วยความอัจฉริยะของ AI ไม่ว่าจะเป็น AI Image Expansion ให้ AI ช่วยเติมเต็มขยายพื้นที่โดยรอบของภาพถ่ายต้นฉบับ และ AI Erase / Erase Pro ลบสิ่งที่ไม่ต้องการในภาพ พร้อมเติมเต็มสิ่งใหม่เข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติ
  • AI Notes: สรุป จัดองค์ประกอบ การแก้ไข และการแปล สิ่งที่บันทึกบนโน๊ตด้วย AI
  • AI Recorder: การถอดเสียงเป็นข้อความ การสร้างสรุปอัตโนมัติ การระบุผู้พูด และการแปลโดย AI

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงฟีเจอร์ AI บางส่วนจากที่มีทั้งหมดเท่านั้น ขณะที่ Redmi Note 14 จะรองรับเฉพาะ Gemini, AI Erase, AI Sky และ AI Beautify

ด้านขุมพลังภายในของทั้ง 2 รุ่นก็แตกต่างกัน โดยที่ Redmi Note 14 ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G99-Ultra สถาปัตยกรรมการผลิต 6nm ประมวลผล Octa-core 2.2GHz มี GPU Mali-G57 MC2

หน่วยความจำ RAM LPDDR4X + ฟีเจอร์ขยาย RAM และ ROM UFS 2.2 ขนาดความจำ 8GB+256GB รองรับหน่วยความจำเสริม microSD Card สูงสุด 1TB ซึ่งก็นับว่าแรงเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานต่าง ๆ

ในแง่การทดสอบเล่นเกมทั้งสองรุ่นมี ฟีเจอร์ Game Turbo ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สนุกไปกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่

ส่วนประสิทธิภาพรุ่น Redmi Note 14 อยู่ในเกณฑ์เล่นได้ ROV ปรับ FPS ได้สูงสุด ส่วนการแสดงผลได้ที่ระดับสูง ขณะที่ PUBG Mobile รองรับความละเอียดภาพ HD กับเฟรมเรทสูง ส่วน Call of Duty Mobile ได้ความละเอียดภาพในระดับกลาง และเฟรมเรทสูง สำหรับเกมกินสเปค Genshin Impact พรีเซ็ตการตั้งค่าที่แนะนำคือ ต่ำสุด

ส่วน Redmi Note 14 Pro+ 5G จะได้สเปกที่แรงขึ้นมาหน่อยโดยเป็นชิป Snapdragon 7s Gen 3 ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 4nm ประมวลผล Octa-core 2.5GHz มี GPU Adreno

สเปกความจำใช้ RAM LPDDR4X + พร้อมฟีเจอร์ขยาย RAM และ ROM UFS 2.2 ขนาดความจำ 12GB+512GB โดยที่รุ่นนี้ไม่รองรับหน่วยความจำเสริม

เรื่องการเล่นเกม Note 14 Pro+ 5G จะทำได้ดีกว่าอีกรุ่น โดยที่ ROV ก็ปรับ FPS และการแสดงผล ได้สูงสุด ขณะที่ PUBG Mobile รองรับความละเอียดภาพกับเฟรมเรทในระดับ Ultra HDR ส่วน Call of Duty Mobile ปรับความละเอียดภาพ และเฟรมเรท สูงมาก สำหรับเกมกินสเปค Genshin Impact พรีเซ็ตการตั้งค่าที่แนะนำคือ ต่ำสุด

ทางด้านคะแนนการประมวลผล Benchmark ได้ผลลัพท์ดังนี้

Redmi Note 14

  • Geekbench 6: Single-core 731 คะแนน และ Multi-core 1985 คะแนน
  • PC Mark Work 3.0: 11,107 คะแนน

Redmi Note 14 Pro+ 5G

  • Geekbench 6: Single-core 1163 คะแนน และ Multi-core 3106 คะแนน
  • PC Mark Work 3.0: 13,921 คะแนน

ส่วนแบตเตอรี่ Redmi Note 14 ให้มา 5500mAh รองรับ Turbo Charging 33W ขณะที่ Redmi Note 14 Pro+ 5G ใส่มา 5110mAh ได้ความไวในการชาร์จ HyperCharge 120W และแน่นอนเรื่องความคุ้มค่าเพราะ Xiaomi แถมอะแดปเตอร์ที่รองรับกำลังชาร์จมาให้ทั้งสองรุ่น

การถ่ายภาพ

สเปกกล้องเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของทั้งสองรุ่น โดยที่ Redmi Note 14 มีกล้องประกอบด้วย

  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • กล้องหลัก 108MP (0.64μm, 1.92μm 9-in-1 pixel binning), f/1.7, 6P Lens, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.67”
    • กล้อง Depth 2MP, f/2.4
    • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
  • กล้องหน้า 20MP, f/2.2

ส่วนกล้องของ Redmi Note 14 Pro+ 5G จะประกอบด้วย

  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • กล้องหลัก 200MP (2.24μm 16-in-1 pixel binning), OIS, f/1.65, เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.4″, 7P Lens
    • กล้อง Ultrawide 8MP, f/2.2
    • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
  • กล้องหน้า 20MP, f/2.2

ส่วนใหญ่ก็ใช้งานได้ง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ขณะที่คุณสมบัติในการถ่ายภาพของ Note 14 Pro+ 5G ก็จัดเต็มทั้ง Dynamic shots, Motion tracking focus, Lightning Burst รวมถึง Dual video

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Redmi Note 14

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

สรุป + ราคา และช่องทางการจำหน่าย

จากที่ได้ลอง รีวิว มา Xiaomi Redmi Note 14 และ Redmi Note 14 Pro+ 5G ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความสมดุลทั้งในด้าน ประสิทธิภาพ และ ความทนทาน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหามือถือระดับกลางช่วงต้นปีแบบนี้

การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

  • Redmi Note 14 Pro+ 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Lavender Purple, Frost Blue และ Midnight Black พร้อมให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 โดยวางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าสั่งซื้อ Redmi Note 14 Pro+ 5G ในระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 รับฟรี Redmi Note 14 Series x BamBam Exclusive Gift Set และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 13,790 บาท
  • Redmi Note 14 Pro 5G รุ่นความจุ 12GB+256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Lavender Purple และ Coral Green โดยวางจำหน่ายในราคา 11,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 Pro 5G ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี Redmi Watch 5 Active และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 11,290 บาท
  • Redmi Note 14 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Lavender Purple และ Coral Green โดยรุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท และรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 5G ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 7,690 บาท
  • Redmi Note 14 รุ่นความจุ 8GB+256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Mist Purple และ Lime Green โดยวางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 5,690 บาท

นอกจากนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G เท่านั้น โดยรับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีเข้าร่วมงาน Iconic Fan Meet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ BamBam ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สยามพารากอน โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อลุ้นเป็น 1 ใน 150 lucky Fans ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page ของ Xiaomi Thailand

ข้อมูลสเปก

Redmi Note 14

  • หน้าจอ AMOLED 6.67″ ความละเอียด 2400 x 1080px รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1800 nits มี Contrast ratio: 5,000,000:1 รองรับ DCI-P3
  • สีที่วางจำหน่าย Midnight Black, Mist Purple, Lime Green
  • ขนาดเครื่อง 163.25 x 76.55 x 8.16 มม. หนัก 196.5g
  • มาตรฐานกันน้ำ IP54
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • กล้องหลัก 108MP (0.64μm, 1.92μm 9-in-1 pixel binning), f/1.7, 6P Lens, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.67”
    • กล้อง Depth 2MP, f/2.4
    • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
  • กล้องหน้า 20MP, f/2.2
  • ชิป MediaTek Helio G99-Ultra (6nm)
    • CPU Octa-core สูงสุด 2.2GHz / GPU Mali-G57 MC2
    • LPDDR4X RAM 8GB + ROM UFS 2.2 256GB
    • รองรับหน่วยความจำเสริมสูงสุด 1TB
  • ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
  • รองรับการทำงานสองซิมบนเครือข่าย
    • 2G GSM: 850 900 1800 1900MHz
    • 3G WCDMA: 1/5/8
    • 4G LTE FDD: 1/3/5/7/8/20/28
    • 4G LTE TDD: 38/40/41
  • แบตเตอรี่ 5500mAh รองรับ Turbo Charging 33W

Redmi Note 14 Pro+ 5G

  • หน้าจอ CrystalRes AMOLED 6.67″ ความละเอียด 2712 x 1220px รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 3000 nits มี Contrast ratio: 5,000,000:1 รองรับ DCI-P3
  • สีที่วางจำหน่าย Lavender Purple, Frost Blue, Midnight Black
  • ขนาดเครื่อง 162.53 x 74.67 x 8.75 มม. หนัก 210.15g
  • มาตรฐานกันน้ำ IP68
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • กล้องหลัก 200MP (2.24μm 16-in-1 pixel binning), OIS, f/1.65, เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.4″, 7P Lens
    • กล้อง Ultrawide 8MP, f/2.2
    • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
  • กล้องหน้า 20MP, f/2.2
  • ชิป Qualcomm Snapdragon 7s Gen 3 (4nm)
    • CPU Octa-core สูงสุด 2.5GHz / GPU Adreno
    • LPDDR4X RAM 12GB + ROM UFS 2.2 512GB
  • ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
  • รองรับการทำงานสองซิมบนเครือข่าย
    • 2G GSM: 850 900 1800 1900MHz
    • 3G WCDMA: 1/2/4/5/6/8/19
    • 4G LTE FDD: 1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/26/28/32/66
    • 4G LTE TDD: 38/40/41/42/48
    • 5G: n1/2/3/5/7/8/12/20/26/28/38/40/41/48/66/77/78
  • แบตเตอรี่ 5110mAh รองรับ HyperCharge 120W

Redmi Note 14 Pro 5G ผ่านการรับรองในไทยแล้ว คาดเปิดตัวเดือนมกราคมนี้
หลุดข้อมูล Redmi Note 14 4G และ Redmi Note 14 Pro 4G ภาพเรนเดอร์และสเปกจัดเต็ม!

About Author

RingRangRung

RingRangRung

Partners