POCO ประเดิมต้อนรับปี 2025 ด้วยการเปิดตัวมือถือระดับกลางรุ่นใหม่จากตระกูล X Series อย่าง POCO X7 และ POCO X7 Pro รวมถึง POCO X7 Pro รุ่นพิเศษ Iron Man Edition ซึ่งก็ได้เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้
และถ้าพูดถึงมือถือตระกูล X Series ของทาง POCO นั้นก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นหนึ่งมือถือยอดนิยมในใจของใครหลายคน ด้วยจุดแข็งของการเป็นมือถือระดับกลางสเปกดี ประสิทธิภาพสุดครบครันจัดเต็ม ในราคาที่ว่ากันว่าคุ้มกว่าใคร ๆ ถ้ามาเทียบกันแบบสเปกต่อสเปก
ซึ่งตอนนี้ POCO X7 Pro ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน MX เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากรู้ว่ารุ่นนี้จะมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ก็ตามมาดูกันในรีวิวนี้กับเราได้เลยครับ
แกะกล่อง
ตัวกล่องของ POCO X7 Pro จะเป็นกล่องสีดำ พร้อมระบุชื่อรุ่นไว้บนตัวกล่องอย่างชัดเจน สไตล์เดียวกันกับมือถือตระกูล X Series รุ่นอื่น ๆ ที่ผ่านมา และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ POCO
ภายในกล่องก็จะพบกับตัวเครื่อง POCO X7 Pro พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย หัวชาร์จ 90W / สายชาร์จ USB-C / เคส / ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) / เข็มจิ้มซิม / คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน
ดีไซน์
POCO X7 Pro มาในดีไซน์แบบเน้นความเรียบหรูดูพรีเมียม สวยงามทันสมัย ซึ่งจะมี 3 สีให้เลือก คือ สีดำ (Black), สีเขียว (Green) และสีเหลือง (Yellow)
สำหรับฝาหลังของ POCO X7 Pro จะเป็นแบบเรียบแบน พร้อมดีไซน์ Deco ทรงสนามแข่ง พร้อมเส้นโค้งแบบเบซิเยร์ (Bézier) โดยมีการตัดเส้นแบ่งลวดลายผิวเกือบผ่ากลางเครื่อง แต่เส้นจะเยื้องไปฝั่งที่ชิดกับโมดูลกล้อง ซึ่งเครื่องสีดำ (Black) และสีเขียว (Green) จะใช้วัสดุพื้นผิวที่เป็นพลาสติก ขณะที่สีเหลือง (Yellow) จะใช้วัสดุพื้นผิวที่เป็นหนังวีแกน
POCO X7 Pro มีกล้องหลังจำนวน 2 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP ร่วมกับกล้อง Ultrawide 8MP ในกรอบวงแหวนขนาดใหญ่ที่วางบนฐานกรอบทรงแคปซูลสีเดียวกันกับตัวเครื่อง ขณะที่ไฟแฟลช LED จะอยู่ถัดไปบริเวณด้านข้างโมดูลกล้องเล็กน้อย
POCO X7 Pro จะมีหน้าจอแบบเรียบ โดยเป็นจอ CrystalRes AMOLED ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2712×1220 พิกเซล) รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 3200 nits รองรับช่วงสีกว้าง 100% DCI-P3 รองรับ Dolby Vision และคลุมด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 7i
หน้าจอของ POCO X7 Pro ช่วยถนอมสายตาด้วยการรับรอง Triple TÜV Rheinland ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ถึง 16,000 ระดับ และค่าลดแสงอยู่ที่ 1920Hz PWM นอกจากนี้หน้าจอ Wet Touch ที่ได้รับการอัปเกรด ยังช่วยให้ใช้งานได้จริง และมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแม้ว่าจะใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานอีกด้วยครับ
บริเวณตรงกลางด้านบนของหน้าจอจะเจาะรูกล้องหน้า 20MP พร้อมด้วยลำโพงสำหรับสนทนาที่อยู่แนบชิดติดขอบตัวเครื่อง และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอบริเวณด้านล่างของจอ
กรอบตัวเครื่องของ POCO X7 Pro ใช้วัสดุแข็งแรงทนทาน พร้อมกับขอบเครื่องแบบเรียบ จึงถือจับกระชับเข้ารับกับสรีระของฝ่ามือได้ดี และใช้งานได้สะดวกสบายด้วยมือข้างเดียว โดยขอบด้านขวาจะมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง
ขอบด้านซ้ายจะเป็นขอบเรียบไม่มีปุ่มกดใด ๆ
ขอบด้านบนจะมีไมโครโฟน IR Blaster และลำโพง
ขณะที่ขอบด้านล่างจะมีช่องใส่ซิมการ์ด พอร์ต USB-C ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และลำโพงอีกหนึ่งตัว เท่ากับว่ารุ่นนี้มีลำโพงคู่ที่ด้านบนและด้านล่าง
ถาดซิมการ์ดของ POCO X7 Pro จะเป็นแบบ Dual SIM จึงไม่สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำเสริม microSD ได้ นอกจากนี้ POCO X7 Pro เป็นมือถือรุ่นแรกของ POCO ที่มีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 อีกด้วยครับ
ประสิทธิภาพ และการใช้งาน
POCO X7 Pro นั้นจะรันด้วย Xiaomi HyperOS 2 ที่อยู่บน Android 15 ซึ่งก็มีลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่มากมาย หน้าตา UI เน้นความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ส่วนพวกเมนูการใช้งานหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากมือถือ Android ทั่วไปครับ
ด้านขุมพลังภายในของรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8400-Ultra แบบ Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.25 GHz ให้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่รวดเร็ว มีเทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool 4.0 พร้อมระบบ POCO 3D IceLoop พร้อมทั้งหน่วยความจำ RAM LPDDR5X และ Storage UFS 4.0 ซึ่งจะมีให้เลือกในรุ่นความจุ 12GB + 256GB และ 12GB + 512GB
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K พร้อมขอบจอที่ค่อนข้างบางของรุ่นนี้ จึงทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ภาพสวยคมชัด และยังลื่นไหลเพราะสามารถปรับรีเฟรชเรทให้เหมาะสมกับเนื้อหาในการใช้งานได้โดยอัตโนมัติสูงสุดที่ 120Hz
เรื่องของสเปกตัวเครื่องที่ให้มาก็นับได้ว่าแรงเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานต่าง ๆ เท่าที่มือถือระดับกลางในยุคนี้จะทำได้ครับ
ลองทดสอบการเล่นเกมต่าง ๆ หลากหลายแนวก็เล่นได้แบบสบาย ๆ และยังมีฟีเจอร์ Game Turbo ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สนุกไปกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม รวมทั้งการจัดการที่ช่วยให้ไม่ถูกขัดจังหวะจากการแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้า เป็นต้น
POCO X7 Pro มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้แบบเหลือ ๆ เพียงพอตลอดวันด้วยความจุถึง 6000mAh ใช้แบตฯ จนหมดก็ไม่ต้องกังวล เพราะรุ่นนี้มาพร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 90W HyperCharge ที่มีหัวชาร์จแถมมาให้แล้วในกล่อง ซึ่งสามารถชาร์จแบตฯ เต็ม 100% ภายในเวลา 42 นาทีเท่านั้น
ส่องกล้อง
มาถึงตรงนี้ก็จะเป็นในเรื่องของการถ่ายภาพที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์เด็ดเหมือนกันของ POCO X7 Pro โดยกล้องของรุ่นนี้ ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX882 รูรับแสง f/1.5 มีกันสั่น OIS ร่วมกับกล้อง Ultrawide 8MP รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 119° และกล้องหน้า 20MP
กล้องหลัง รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 3840×2160 @24fps/30fps/60fps, 1080p 1920×1080 @30/60fps, 720p 1280×720 @30fps, Slow motion: 1080p 1920×1080 @120fps/240fps/960fps และ Slow motion: 720p 1280×720 @120fps/240fps/960fps
ส่วนกล้องหน้า รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p 1920×1080 @30fps และ 720p 1280×720 @30fps
ขณะที่คุณสมบัติในการถ่ายภาพก็มีมาครบ ซึ่งก็จัดมาให้แบบแน่น ๆ ตามสไตล์ของ Xiaomi ไม่ว่าจะเป็น โหมดอัตโนมัติ โหมดโปร โหมดวิดีโอ โหมดภาพบุคคล โหมดกลางคืน โหมด 50MP โหมดพานอรามา โหมดสโลโมชั่น โหมดวิดีโอคู่ โหมดวิดีโอเคลื่อนไหวเร็ว โหมดการเปิดรับแสงนาน โหมดผู้กำกับ และโหมดเอกสาร
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้งานได้ง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ส่วนเรื่องความสวยของภาพก็นับว่าทำได้ดีมาก ๆ ถ่ายจบหลังกล้องโดยแทบไม่ต้องแต่งเพิ่มเลย
นอกจากนี้ตัว AI ของกล้องก็รู้สึกว่ามาช่วยเพิ่มความสามารถให้กล้องทำงานได้อย่างฉลาดมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย จะถ่ายย้อนแสง ถ่ายที่แสงน้อย ถ่ายกลางคืน ถ่ายบุคคล หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ใช้โหมดการถ่ายแบบอัตโนมัติยังออกมาสวยโดยแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม รวม ๆ แล้วค่อนข้างประทับใจกับเรื่องกล้องถ่ายภาพของรุ่นนี้มาก ๆ ครับ
เสริมพลัง AI
และที่ขาดไปไม่ได้สำหรับมือถือยุคใหม่ในตอนนี้ก็คือเรื่องของ AI ซึ่ง POCO X7 Pro นั้นก็พร้อมฟีเจอร์ AI ที่จะเข้ามาช่วยเสริมการใช้งานในชีวิตประจำวัน อาทิ ฟีเจอร์ Al Erase Pro ที่จะช่วยลบคนในภาพที่ไม่ต้องการเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ และ Al Image Expansion ที่จะช่วยปรับแต่งองค์ประกอบภาพหลังการถ่ายภาพให้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันฟีเจอร์ Al Film จะช่วยให้สามารถสร้างวิดีโอสั้น ๆ แบบภาพยนตร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
และสำหรับประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูง POCO X7 Pro ก็มาพร้อม Al Interpreter ที่จะช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ทั้งการแปลแบบเห็นหน้า และการแปลทางโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Al Recorder และ Al Notes ที่จะช่วยในเรื่องการถอดเสียงเป็นข้อความ การสร้างสรุปอัตโนมัติ การระบุผู้พูด และการแปลโดย AI
ทั้งนี้ POCO X7 Pro ยังมาพร้อมแอป Google Gemini ให้เราสามารถสนทนากับ Gemini ผู้ช่วย Al ส่วนตัวจาก Google ที่จะช่วยทั้งเรื่องการเขียน ระดมความคิด เรียนรู้ และอื่น ๆ ได้อีกมากมายอีกด้วยนั่นเอง
ข้อมูลสเปก POCO X7 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง 160.75 × 75.24 × 8.29 มิลลิเมตร (พลาสติก) / 160.75 × 75.24 × 8.43 มิลลิเมตร (หนังวีแกน)
- น้ำหนัก 195 กรัม (พลาสติก) / 198 กรัม (หนังวีแกน)
- หน้าจอ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2712×1220 พิกเซล) รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 3200 nits รองรับช่วงสีกว้าง 100% DCI-P3 รองรับ Dolby Vision กระจก Corning Gorilla Glass 7i
- ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8400-Ultra แบบ Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.25 GHz
- RAM 12GB + Storage 256/512GB (LPDDR5X + UFS 4.0)
- กล้องหน้า 20MP
- กล้องหลัง 50MP (Sony IMX882), f/1.5, OIS + กล้อง Ultrawide 8MP, f/2.2
- ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 บน Android 15
- แบตเตอรี่ 6000mAh, ชาร์จเร็ว 90W
- การเชื่อมต่อ 5G Dual SIM, Wi-Fi ax, Bluetooth 5.4, NFC, USB-C
- สีดำ (Black) / สีเขียว (Green) / สีเหลือง (Yellow)
สรุป
โดยสรุปแล้ว POCO X7 Pro รุ่นนี้ก็คาดว่าน่าจะได้รับความนิยมเหมือนกันกับมือถือตระกูล X Series ของทาง POCO รุ่นที่ผ่าน ๆ มาอย่างแน่นอน ด้วยตัวสเปกที่ค่อนข้างจัดหนักจัดเต็มสวนทางกับราคาค่าตัวที่ไม่แพงจนเกินไป
ซึ่ง POCO X7 Pro ก็เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือระดับกลางที่มาพร้อมประสิทธิภาพสุดครบครันคุ้มราคาในงบหมื่นต้น ๆ นั่นเอง
ราคา และช่องทางจำหน่าย
POCO X7 Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Green, และ Yellow พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใครในราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ 9 – 25 มกราคม 2568 ที่ mi.com และ Lazada
โดย POCO X7 Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 10,990 บาท (จากราคาปกติ 11,990 บาท) และรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 11,990 บาท (จากราคาปกติ 12,990 บาท)
นอกจากนี้ POCO X7 Pro ยังมีรุ่นพิเศษ Iron Man Edition รุ่นความจุ 12GB+512GB พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใครในราคาพิเศษระหว่างวันที่ 9 – 25 มกราคม 2568 ที่ mi.com และ Lazada ในราคาพิเศษ 12,990 บาท (จากราคาปกติ 13,990 บาท)
ขณะเดียวกัน POCO X7 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Green, Silver พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใครในราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ 9 – 25 มกราคม 2568 ที่ mi.com และ Shopee
โดย POCO X7 รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 7,499 บาท (จากราคาปกติ 7,999 บาท) และรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 8,999 บาท (จากราคาปกติ 9,999 บาท)
เปิดตัว POCO X7 | X7 Pro มือถือระดับกลางสเปกคุ้ม เคาะขายไทยราคาพิเศษเริ่มต้น 7,499 บาท