ในช่วงงาน Mobile World Congress 2017 ที่กรุง Barcelona ประเทศสเปน หัวเว่ย ได้เปิดตัว หัวเว่ย P10, P10 Plus และ หัวเว่ย Watch 2 อย่างเป็นทางการ ทีมงาน mxphone ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย โดยหลังจากงานแถลงข่าวจบลง จะมีโซนที่ให้นักข่าว และแขกผู้ร่วมงานได้ทดลองใช้งานจริง
แต่ไฮไลท์ที่สำคัญไม่น้อยหน้าสินค้าที่เปิดตัวใหม่ นั้นก็คือ สีใหม่ของ P10 และ P10 Plus นั้นก็คือ สี Greenery และ Dazzling Blue เป็นสีที่ทาง Pantone คือ (Pantone Color Institute คือสถาบันด้านสีชั้นนำของโลกและผู้กำหนดมาตรฐานสีสำหรับอุตสาหกรรมการออกแบบ)
ได้คัดเลือกว่า สี Greenery และ Dazzling Blue เป็นสีที่จะสวยที่สุดที่จะใช้ในสินค้าในปีนี้ และทาง Huawei เองก็ได้นำทั้ง 2 สีนี้ มาอยู่ใน Huawei P10 และ P10 Plus ทุกรุ่น ไม่ได้จำกัดที่จะมีเฉพาะสเปคสูงๆ เท่านั้น
สเปคเครื่อง Huawei P10 และ P10 Plus
๐ P10 หน้าจอ IPS 5.1 นิ้ว 1080×1920 พิกเซล (431 พิกเซลต่อตารางนิ้ว)
๐ P10 Plus หน้าจอ IPS 5.5 นิ้ว 1440×2560 พิกเซล (534 พิกเซลต่อตารางนิ้ว)
๐ ปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass 5
๐ หน่วยประมวลผล HiSilicon Kirin 960 (64bit Octa-core 2.4GHz)
๐ P10 หน่วยความจำ RAM 4GB และ ROM 64GB
๐ P10 Plus หน่วยความจำ RAM 6GB และ ROM 128GB
๐ สนับสนุนการใช้งาน Hybrid Dual SIM เลือกซิมสองหรือ MicroSD
๐ ระบบกล้องหลักเซ็นเซอร์ RGB 12 ล้านพิกเซล Monochrome 20 ล้านพิกเซล
๐ ชุดเลนส์ Leica กล้องหลัก P10 Summarit F/2.2 / P10 Plus Summilux F/1.8
๐ ระบบกล้องหน้า เลนส์ Leica ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
๐ รองรับการใช้งาน 4G LTE / WiFi 802.11 / Bluetooth 4 / NFC
๐ วัสดุตัวเครื่องโลหะอลูมิเนียมชิ้นเดียว ด้วยเทคนิค Hyper Diamond Cut
๐ ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้ว ติดตั้งบริเวณด้านล่างหน้าตัวเครื่อง
๐ P10 น้ำหนัก 145 กรัม P10 Plus น้ำหนัก 165 กรัม / USB-C
๐ ส่วนหนาตัวเครื่อง 6.98 มิลลิเมตร / รองรับเทคโนโลยี Huawei SuperCharge
๐ แบตเตอรี่ฝังตัวขนาดความจุ P10 3200 มิลลิแอมป์ / P10 Plus 3750 มิลลิแอมป์
๐ ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat พร้อม EMUI 5.1
๐ มีให้เลือกปกติ 8 สี Dazzilng Gold, Rose Gold, Mystic Silver, Greenery, Dazzling Blue, White Ceramic, Prestige Gold, Graphite Black
๐ การวางจำหน่ายตัวเลือกสีสัน ในแต่ละภูมิภาคจะไม่เหมือนกัน
ก่อนที่จะมาดูเครื่องตัวจริงกัน ทีมงานขอสรุปสเปคเด็ดๆ ที่มีมาใน Huawei P10 และ P10 Plus ว่ามีอะไรเด็ดๆ เจ๋งๆ ที่เรียกกระแสได้บ้าง
งานออกแบบตัวเครื่อง
ตัวเครื่อง Huawei P10 และ P10 Plus นั้นเน้นผสานการออกแบบหลายๆ ด้านอย่างลงตัว และเป็นครั้งแรกในการใช้เพชรเพื่อตัด และเจียร ในการผลิตชิ้นส่วนเครื่อง ซึ่งแข็งแกร่งลดรอยขีดข่วน และลดรอยนิ้วมือ เป็นเทคนิคที่เรียกว่า Hyper Diamond Cut ตัวเครื่องบางเพียง 6.98 mm และน้ำหนักเพียง 145 กรัม (P10) 165 กรัม (P10 Plus)
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังกันน้ำได้โดยมีเคลือบ Nano Coating บนบอร์ดตัวเครื่องกันน้ำอุ่นใจแน่นอน (เฉพาะรุ่น P10 Plus)
จอแสดงผล
ในส่วนของ P10 และ P10 Plus ขนาดจะต่างกันเล็กน้อย โดย P10 หน้าจอ IPS NEO ขนาด 5.1 นิ้ว 1080×1920 พิกเซล (431 PPI) และ P10 Plus หน้าจอ IPS NEO เช่นเดียวกัน ขนาด 5.5 นิ้ว 1440×2560 พิกเซล (534 PPI) จอแสดงผลทั้งสองรุ่น ใช้ Gorilla Glass 5
กล้องถ่ายภาพ
ถือว่ามาหนักจัดโหดมาก ที่ Huawei เคลมว่า เป็น Smartphone ตัวแรกของโลก ที่ ใช้เลนส์ Leica ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ส่วนของด้านหลังของเครื่อง เป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนของโลก ที่ไม่มีส่วนนูนของกล้องเลย
โดยเลนส์กล้องหลัง P10 และ P10 Plus เป็นเลนส์กล้องคู่ เหมือนตัว P9 จะมีจุดที่แตกต่างกัน คือ กล้องหลัง P10 ใช้ Summarit F/2.2 (เหมือนรุ่น P9) และ P10 Plus ใช้ Summilux F/1.8 ทั้งสองรุ่นกล้องหลังความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (mono) + 13 ล้านพิกเซล (RGB) และกล้องหน้าใช้ Leica Lens ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ความพิเศษเพิ่มเติมของ P10 Plus เรื่องของกล้องคือ Huawei Hybrid Zoom สามารถซูมภาพแบบ Optical ได้ 2 เท่า และเป็นซอฟท์แวร์ Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition พร้อมระบบ 4 in 1 Hybrid auto focus มี OIS ทั้งนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K ในขนาดที่เล็กลงกว่า 50% ได้ด้วยการเข้ารหัส H.256 codec ด้วย
ที่สุดยอดสำหรับการถ่ายภาพ จะมีในส่วนของการวิเคราะห์หน้าคนแบบ 3D มีการวัดแสงให้การถ่ายภาพหน้าคนดูสวย และมีมิติมากขึ้นอีกด้วยครับ
ส่วนกล้องหน้า Leica Lens 8MP f/1.9 ก็จะสามารถถ่ายภาพได้ความสว่างมากขึ้นถึง 2 เท่า ที่แสงน้อยถ่ายได้แบบไม่หวั่นเลย
Network
Huawei P10 และ P10 Plus นั้นรองรับการใช้งาน 4G LTE / WiFi Dual Antenna 2×2 MIMO / Bluetooth 4 / NFC และรองรับ Dual SIM โดย SIM 2 รองรับ 7 WCDMA bands + 4 GSM Band
นอกจากนี้ Huawei P10 Plus ยังถือเป็นเครื่องแรกที่รองรับ 4.5G เสาอากาศ 4×4 MIMO ทำให้ใครที่ใช้เครือข่าย TrueMove H คงได้กรี๊ดกันแน่นอนครับ
สำหรับถาดซิมเป็นแบบ Hybrid Dual SIM ต้องเลือกระหว่าง SIM2 หรือ Micro SD นะครับ
ประสิทธิภาพเครื่อง
เรือธงรุ่นนี้ยังคงใช้ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 960 แบบเดียวกับที่ใช้บน Mate 9 Series ครับ เป็นชิปเซ็ตเรือธงรุ่นล่าสุดซึ่งทาง Huawei เคลมว่าชิปเซ็ตตัวนี้ในช่วง 18 เดือนหลังจากนี้จะยังเป็นชิปที่เร็วระดับต้นๆ เหมือนเดิม โดยจับคู่กับ RAM 4GB และ ROM 64GB สำหรับรุ่น P10 ส่วน P10 Plus จะมาพร้อม RAM 6GB และ ROM 128GB รองรับ Micro SD ด้วย
Huawei P10 และ P10 Plus จะมีเทคโนโลยี Huawei Ultra Memory ที่จะช่วยให้มีการตอบสนองการใช้งานบนแอพต่างๆ เร็วขึ้น และเปิดแอพพลิเคชั่นได้เร็วขึ้นถึง 30% ซึ่งมีอัลกอลิทึ่มในการเรียนรู้การใช้งานเพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม
แบตเตอรี่
ในส่วนของแบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh สำหรับ P10 และ 3750 mAh สำหรับ P10 Plus โดยในรุ่น P10 นั้นทางหัวเว่ยเคลมว่าสามารถใช้งานโหมดปกติได้ยาวนานถึง 1.8 วันเลยทีเดียว
รองรับ Huawei SuperCharge ซึ่งชาร์จแค่ 30 นาทีใช้งานได้ทั้งวัน เทียบแล้วชาร์จเร็วกว่า iPhone 7 Plus ถึง 2.5 เท่าเลยทีเดียวครับ
ยลโฉมเครื่องจริง
ขนาดของตัวเครื่องทั้งสองรุ่นแตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่ ตัว Huawei P10 Plus จะสูงกว่า P10 อยู่ 8.2 mm และกว้างกว่า 4.9 mm เทียบกันแล้วยังไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ น้ำหนักต่างกัน 20 กรัม คือ 165 กับ 145 กรัม ทั้งคู่ยังถือได้ถนัดมือ เล่นมือเดียวสะดวก
ด้านหน้าเต็มไปด้วยหน้าจอแบบแทบจะไร้ขอบ มีเลนส์กล้อง Leica 8MP สำหรับเซลฟี่ด้านหน้า ถัดมาด้วยลำโพงเสียง และมีเซ็นเซอร์ต่างๆ กับไฟแจ้งเตือน LED บริเวณเหนือหน้าจอ
ด้านล่างมีปุ่ม Smart touch ที่ใช้ควบคุมได้หลากหลาย และเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย ส่วนปุ่มควบคุมยังคงมีบนหน้าจอเหมือนเดิมแบบฉบับของ EMUI
ด้านข้างขวา เป็นปุุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่มกดถ่ายภาพ
ด้านข้างซ้าย เป็นช่องใส่ SIM Card แบบ NanoSIM และ ช่องใส่ MicroSD Card ซึ่งเป็นช่องแบบ Hybrid คือช่องที่ 2 ต้องเลือกใส่ NanoSIM หรือ MicroSD Card
ด้านหลังเป็นบอดี้โลหะ แยกส่วนบนเป็นส่วนของพาเนลกล้อง ซึ่งมีกล้องคู่ Leica 20MP + 12MP พร้อมแฟลช Dual-tone โดยรวมด้านหลังดูหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ยเลยทีเดียว
สำหรับ P10 ตัวเลนส์ยังคงใช้ Summarit F/2.2 ส่วน P10 Plus (รูปในภาพ) ใช้ Summilux F/1.8
สำหรับตัวเครื่องในการจับโดยรวม ถือว่าทำได้ดี ตัวเดรื่องทำมาจากโลหะ ชิ้นเดียว แล้วใช้ เพชร ในการลบคมและทำลวดลาย เลยทำให้ตัวเครื่องสวยงามมาก สังเกตพื้นหลังเป็นร่องเล็กมากๆ จับถนัดมือ
นอกจากนี้ยังมีเคสหลากหลายสี หลากหลายแบบออกมาให้เลือก ซึ่งจะมีลวดลายแตกต่างกันไม่ใช่สีทื่อๆ ด้วย ในงานมีให้ดูทุกแบบเลยทีเดียว สวยทุกอัน เคสทุกชิ้นมีเนื้อผิวที่นุ่ม และเป็นชั้นๆ ซ้อนกันอีกด้วย
นับเป็นเรือธงรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมากระแสรุนแรงเลยทีเดียว จากที่เป็นสมาร์ทโฟน ที่ใช้เลนส์ที่ผ่านการรับรองจากทาง Leica (เลนส์กล้องไม่ได้ใช้ของ Leica จริงๆ แต่เป็นเลนส์ที่ได้รับการ certificate จากทาง Leica แล้วสามารถใช้แบรนด์ Leica ได้) เรื่องของสเปคก็จัดหนัก
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศในชุดแรกที่มีการวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้ ทั้ง P10 และ P10 Plus ส่วนเรื่องราคาในไทย P10 อาจจะไม่หนีจากราคาที่เปิดตัวที่ 649€ หรือประมาณ 24,000 บาท (ภาษีแต่ละประเทศไม่เท่ากัน) และ P10 Plus 699€ ราคา 25,800 บาท ในรุ่น RAM 4G ROM 64GB และ 799€ ราคา 29,500 บาท RAM 6GB ROM 128GB
สรุป Huawei P10 และ P10 Plus จัดเป็นรุ่นน่าเล่นที่หลายคนตั้งตารอกันอย่างแน่นอน สำหรับรีวิวเครื่องจริงอดใจรอกันอีกนิด ได้พบกันแน่นอนครับ อันนี้เป็นออเดิร์ฟจากงาน MWC 2017 เอาไปชมกันพอประมาณก่อนนะ ^^ ใครอยากดูชัดๆ เครื่องจริงสามารถดูจากวิดีโอได้ด้านล่างนี้เลย