ตั้งแต่ปีก่อนในช่วงที่บ้านเรามีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ทำให้กระแสของเครื่องฟอกอากาศนั้นเป็นที่สนใจมากขึ้นหลายเท่าตัวและยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ขายดีจนสินค้าขาดตลาดไปช่วงหนึ่งคงหนีไม่พ้น Xiaomi กับผลิตภัณฑ์ Mi Air Purifier หลากหลายรุ่น ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพสุดครบครัน คุ้มค่า ในราคาที่เข้าถึงได้

และหลังจากที่ Mi Air Purifier 2S ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย ล่าสุด Xiaomi ก็ได้เปิดตัว Mi Air Purifier 3H ซึ่งถ้าให้นับก็น่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านรุ่นที่ 7 ของทาง Xiaomi เข้าไปแล้ว โดยรุ่นนี้ก็จะมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการฟอกอากาศที่ดียิ่งขึ้น ทำงานได้อัจฉริยะมากขึ้น และรองรับการทำงานร่วมกับ Google Assistant อีกด้วย
ข้อมูลสเปกและคุณสมบัติเด่นของ Mi Air Purifier 3H
- หน้าจอสัมผัส OLED อัจฉริยะ
- ไส้กรอง True HEPA กรองอนุภาคขนาดจิ๋ว 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97%
- อ่านและตรวจเช็ควัดค่า AQI แบบเรียลไทม์
- อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ถึง 380 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (CADR)
- อายุการใช้งานไส้กรอง 6-12 เดือน
- ครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 45 ตารางเมตร
- เสียงการทำงานสูงสุด 33-64 เดซิเบล
- ควบคุมการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลผ่านแอปพลิเคชัน Mi Home
- รองรับการทำงานร่วมกับ Google Assistant และ Amazon Alexa
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n 2.4GHz
- ขนาดตัวเครื่อง 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 4.8 กิโลกรัม (รวมไส้กรอง)
Mi Air Purifier 3H ยังคงมีการออกแบบในสไตล์คลาสสิคและมินิมอลแบบเรียบง่ายตามแบบฉบับของ Xiaomi โดยตัวเครื่องดีไซน์รูปแบบ Tower ทรงสี่เหลี่ยม ในโทนสีขาวสะอาดตาคล้ายกันกับ Mi Air Purifier รุ่นอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะมีรูสำหรับระบายอากาศอยู่โดยรอบตัวเครื่อง

ตัวเครื่องด้านหน้า จะมีหน้าจอแสดงผล OLED แบบสัมผัส จึงทำให้สามารถกดเปิด/ปิดเครื่อง ปรับความเร็วพัดลม และปรับโหมดการใช้งานอื่น ๆ ได้ด้วยตนเอง ต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mi Air Purifier 2S เป็นหน้าจอแสดงผล OLED ที่ไม่ใช่แบบสัมผัส จึงต้องอาศัยการปรับตั้งค่าผ่านปุ่มกดบนตัวเครื่องหรือในแอปพลิเคชันในมือถือ
บนหน้าจอแสดงผลนี้จะโชว์ข้อมูลคุณภาพอากาศ ทั้งค่าฝุ่น PM2.5 อุณหภูมิ ความชื้น โหมดการใช้งาน การเชื่อมต่อ Wi-Fi และค่าความบริสุทธิ์ของอากาศแบบเรียลไทม์ ซึ่งโหมดการใช้งานก็มีให้เลือกหลากหลาย
โดยไอคอนหัวใจคือโหมดตั้งค่าส่วนตัว ไอคอนพระจันทร์คือโหมดการนอน ไอคอนตัว A คือโหมดอัตโนมัติ และปรับความเร็วของพัดลม 3 ระดับ คือ เบา กลาง และสูง

ด้านบนของ Mi Air Purifier 3H เป็นตะแกรงฝาครอบพัดลมดูดอากาศแบบเต็มสี่เหลี่ยม ที่ดูแล้วแม้แต่นิ้วเด็กก็ไม่น่าจะแหย่ลงไปในช่องว่างของตะแกรงนี้ได้ รวมทั้งตัวใบพัดทรงหอยโข่งที่อยู่ค่อนข้างลึกลงไปพอสมควร จึงค่อนข้างปลอดภัยสำหรับบ้านที่มีเด็กวัยกำลังซนอย่างแน่นอน

ถัดมาที่ด้านหลังเราจะเห็นปุ่มสำหรับเปิด/ปิดหน้าจอแสดงผล ที่ยังทำหน้าที่เป็นปุ่มรีเซ็ตฟิลเตอร์อีกด้วย โดยจะมีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นที่เป็นรูเล็ก ๆ อยู่ข้าง ๆ และถัดลงมาที่บริเวณด้านล่างจะเป็นชุดเซนเซอร์วัดค่าฝุ่นด้วยเลเซอร์
ที่ด้านล่างตรงรูสำหรับระบายอากาศจะเป็นที่อยู่ของไส้กรองอากาศ โดยเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำการเปลี่ยนไส้กรองก็สามารถเปิดฝาหลังและดึงไส้กรองออกมาได้เลย
สำหรับไส้กรองอากาศจะเป็น True HEPA รูปทรงกระบอก ที่อากาศสามารถเข้าได้ 360 องศา ดักฝุ่นได้รอบทิศทาง มีระบบกรอง 3 ชั้นคล้ายกันกับ Mi Air Purifier รุ่นอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ คือ ชั้นนอกสุด (Pre-Filter), ชั้นกลาง (HEPA-Filter) และชั้นในสุด (Carbon-Filter)
สามารถกรองได้ตั้งแต่ฝุ่นทั่วไป จนถึงฝุ่นละอองขนาดเล็กระดับ 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97% และยังรวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยมีอัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ถึง 380 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (CADR)

ที่ด้านใต้ของไส้กรองจะมี RFID ติดเอาไว้เพื่อคอยตรวจสอบอายุการใช้งาน โดยจะแสดงและแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนไส้กรองทั้งบนหน้าจอแสดงผลของตัวเครื่อง และในแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งไส้กรองจะมีอายุการใช้งาน 6-12 เดือน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและจำนวนชั่วโมงที่เปิดใช้งานจริงด้วย

Mi Air Purifier 3H สามารถใส่ไส้กรองอากาศรุ่นอื่น ๆ ของ Mi ได้ด้วยเช่นกัน

บริเวณใต้เครื่องก็จะมีสติ๊กเกอร์บอกชื่อรุ่น Mi Air Purifier 3H ติดไว้อย่างชัดเจน รวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้าตัวนี้ เช่น น้ำหนัก อัตราการกินไฟ แรงดันไฟที่รองรับ ฯลฯ และช่องเสียบสายไฟ
แน่นอนว่า Mi Air Purifier 3H จะต้องใช้งานควบคู่กับแอปพลิเคชัน Mi Home เหมือนกันกับเครื่องฟอกอากาศรุ่นอื่น ๆ ของ Xiaomi เพื่อการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
ซึ่งแอปฯ ดังกล่าวก็มีให้ดาวน์โหลดทั้งระบบ iOS และ Android โดยใครที่เพิ่งใช้ผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi เป็นครั้งแรกก็จะต้องสร้างแอคเคาท์กันก่อน ส่วนคนที่มีแอคเคาท์อยู่แล้วก็สามารถลงทะเบียนอุปกรณ์เข้ากับตัวบัญชีและซิงค์ข้อมูลได้เลย
ในแอปฯ Mi Home เราสามารถกำหนดห้องและเพิ่มอุปกรณ์ได้ด้วยตัวเอง หรือจะใช้วิธีค้นหาอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนที่แอปฯ แนะนำต่อไปเรื่อย ๆ ได้เลย
เมื่อ Mi Air Purifier 3H ทำการเชื่อมต่อกับแอปฯ Mi Home เสร็จเรียบร้อย เราก็สามารถดูข้อมูลคุณภาพอากาศ ทั้งค่าฝุ่น PM2.5 อุณหภูมิ ความชื้น โหมดการใช้งาน การเชื่อมต่อ Wi-Fi และค่าความบริสุทธิ์ของอากาศได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาเปิด/ปิดเครื่อง ปรับความสว่างหน้าจอแสดงผล รวมทั้งตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ทั้งหมดได้อย่างสะดวก และที่สำคัญคือ Mi Air Purifier 3H ยังทำงานเข้ากันได้ดีกับ Google Assistant และ Amazon Alexa อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ด้วยคำสั่งเสียงได้จากระยะไกล และสามารถจับคู่กับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ของ Xiaomi ได้ด้วย

แม้จะเป็นห้องที่มีขนาดกว้างก็ยังสามารถใช้ Mi Air Purifier 3H ได้แบบสบาย ๆ เพราะครอบคลุมพื้นที่ได้มากถึง 45 ตารางเมตร ซึ่งมากกว่า Mi Air Purifier 2S ที่รอบคลุมเพียง 37 ตารางเมตร

โดยรวมแล้ว Mi Air Purifier 3H ก็เป็นเครื่องฟอกอากาศอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ไม่แพ้กันกับบรรดารุ่นก่อนหน้านี้ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพในการใช้งานที่จัดว่าครบครัน ใช้งานง่าย แถมมีราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้
ลองดูตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของ Mi Air Purifier 3H กับ Mi Air Purifier 2S รุ่นก่อนหน้านี้

สำหรับใครที่สนใจหรือกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศดี ๆ สักเครื่อง Mi Air Purifier 3H ก็มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน Mi Authorized Store และร้านค้าที่รับการแต่งตั้งจาก Xiaomi อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,990 บาทเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : อากาศยังไม่ดี ต้อง Mi Air Purifier 3H แล้วหละ | POWER ON #114