เข้ามาขายในไทยแล้วสำหรับ Huawei Y9s สมาร์ทโฟนระดับ Mid-Low ตัวใหม่ของตระกูล Y-series ที่มากับดีไซน์หน้าจอ Ultra FullView Display ไร้รอยบาก กล้องหน้าแบบป็อปอัพ พร้อมกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล
สเปค Huawei Y9s
- สัดส่วนเครื่อง 163.1 x 77.2 x 8.8 มม. หนัก 206 กรัม
- จอ LTPS IPS LCD ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9
- ชิปเซต Kirin 710F ประมวลผล Octa-core (4×2.2GHz Cortex-A73 & 4×1.7GHz Cortex-A53) มี GPU Mali-G51 MP4
- สเปคหน่วยความจำที่ขายในไทย RAM 6GB+ROM 128GB รองรับหน่วยความเสริม microSD Card สูงสุด 512GB
- กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.0″, ขนาดพิกเซล 0.8um, PDAF
- กล้อง Ultrawide 120 องศา 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Depth sensor 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- สนับสนุน Wi-Fi 802.11 b/g/n, 2.4GHz
- รองรับ Bluetooth 4.2
- เทคโนโลยีระบุพิกัด GPS , AGPS, Glonass, BeiDou
- รองรับการทำงานสองซิม Hybrid slot โดยมีเครือข่ายที่สนับสนุน TD-LTE / LTE FDD / WCDMA / GSM
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
- แบตเตอรี่ขนาด 4000mAh รองรับกำลังชาร์จ 10W ผ่านพอร์ต USB-C
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 9.1 (บนพื้นฐาน Android 9)
- สีที่วางขาย Breathing Crystal / Midnight Black
เริ่มจากการแกะกล่องกันก่อนรุ่นนี้มากับแพ็คเกจกล่องสีขาวไซส์มาตรฐาน หน้ากล่องสกรีนรูปเครื่องระบุชื่อรุ่นอย่างชัดเจน สำหรับตัวแพ็คเกจที่ได้มาเป็นแพ็คเกจของเครื่องรีวิว ทำให้อุปกรณ์บางอย่างจะไม่ได้ครบเหมือนเครื่องที่ขายจริง แต่น่าจะมีหลายๆอย่างที่เหมือนกันทั้ง
- เครื่อง Huawei Y9s ที่ติดฟิลม์กันรอยหน้าจอมาแล้ว
- เคส TPU แบบใส
- หูฟัง
- สาย USB-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 5V/2A
- เข็มจิ้มถาดซิม
- ใบคู่มือ+ใบรับประกัน (สำหรับแพ็คเกจขายจริง)
Y9s มากับขนาดตัวเครื่องที่พอดีมือ พกพาง่ายในไซส์ 163.1 x 77.2 x 8.8 มม. น้ำหนัก 206 กรัม ใช้วัสดุกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวขอบเป็นอลูมิเนียม
หน้าจอโดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ Ultra FullView Display ให้การแสดงผลเต็มตาในอัตราส่วน 19.5:9 มีพื้นที่แสดงผลเมื่อเทียบกับตัวเครื่องสูง 91% ไม่มีรอยบากมากวนใจ โดยที่แผงจอใช้ LTPS IPS LCD ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) ให้การแสดงผลของสีที่สว่างคมชัดด้วยค่าความหนาแน่นพิกเซล 391ppi และแน่นอนว่าทำ Multitouch ได้ 10 จุดไม่มีปัญหา
พื้นที่ขอบดำบนหน้าจอด้านบนจะเป็นลำโพงสนทนา ส่วนขอบด้านล่างจะหนาเล็กน้อยและใช้การควบคุมพื้นฐาน Navigation Bar เป็นแบบ On-Screen บนจอ
สำหรับกล้องหน้าใช้แบบป๊อปอัพซ่อนอยู่ขอบเครื่องด้านบนพื้นที่เดียวกันกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid slot และ ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน โดยที่ตัวกล้องหน้ามีระบบตรวจจับการตกซึ่งตัวกลไกจะดึงกล้องเก็บเองเมื่อสัมผัสได้ว่าเครื่องกำลังหล่น รับประกันด้านความทนทานจากการทดสอบในห้องแล็ปกว่าแสนครั้ง แถมยังเคลมว่ารองรับแรงดึงได้มากถึง 15 กิโลกรัม
ด้านล่างเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟน และลำโพงหลัก
สำหรับปุ่มต่างๆทั้งตัวปรับระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์จะอยู่ฝั่งซ้าย โดยที่ตัวปุ่มพาวเวอร์จะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัวด้วย
พลิกมาด้านหลังจะพบกับกล้องหลัง 3 ตัววางเรียงเป็นแนวตั้งชิดมุมซ้ายบน มีแฟลช LED อยู่ด้านล่าง โดยที่ฝาหลังของรุ่นนี้ทำขอบโค้งแบบ 3D Arc Design มีลูกเล่นการไล่เฉดสีด้วยกระจก 21 ชั้น ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงสะท้อนตามธรรมชาติซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนกับตัวสี Breathing Crystal ส่วนใครที่ชอบแบบคลาสสิคก็มีสี Midnight Black ให้เป็นตัวเลือก
Huawei Y9s มากับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie กับ EMUI 9.1 ซึ่งหน้าตา UI ก็เรียบง่าย ใช้งานชินมือ ฟังค์ชั่นครบ และจุดที่เป็นไฮไลท์เกินหน้าเกินตารุ่นเรือธงคือรุ่นนี้มี Google Service (GMS) ให้ใช้
ระบบความปลอดภัยสำหรับใช้ยืนยันตัวตนก็มีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มพาวเวอร์ทางฝั่งขวาของเครื่อง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่แตะสแกนได้ง่าย ไม่ฝืนธรรมชาติ แถมยังสแกนได้ไวเพียง 0.3 วินาที
สำหรับการประมวลผลของรุ่นนี้เป็น Hisilicon Kirin 710F สถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 12nm โดยแบ่งการทำงานเป็น Quad-core Cortex-A73 เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดกำลัง 2.2GHz กับ Quad-core Cortex-A53 เพื่อการทำงานที่ต้องการประหยัดพลังงาน กำลัง 1.7GHz และใช้ GPU Mali-G51 MP4ด้านสเปคหน่วยความจำที่ขายในไทย RAM 6GB+ROM 128GB รองรับหน่วยความเสริม microSD Card สูงสุด 512GB
จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมในรุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีไม่ว่าจะเป็น Call of Duty: Mobile ในสเปคกราฟิกต่ำ, PUBG Mobile ด้วยกราฟฟิกระดับ High-HD และ ROV ด้วยตัวเลขเฟรมเรท 30fps
สำหรับคะแนนทดสอบ Benchmark ต่างๆได้ผลลัพท์ดังนี้
- PCMark for Android (Work 2.0) = 5904 คะแนน
- Geekbench 4 Pro = Single-core : 1521 คะแนน / Multi-core : 5381 คะแนน
- AuTuTu Benchmark v8.0.1= 173892 คะแนน
ในส่วนของแบตเตอรี่ก็มีมาให้ 4000mAh รองรับกำลังชาร์จ 10W ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวัน พร้อมด้วยระบบ AI ที่ช่วยจัดสรรการใช้พลังงานให้เหมาะสม
ด้านการถ่ายภาพจัดมาให้คุ้มค่าสมราคา โดยที่เป็นกล้องหลัง 3 ตัวไล่จากบนลงล่างประกอบด้วย
- กล้อง Depth sensor 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.0″, ขนาดพิกเซล 0.8um, PDAF
- กล้อง Ultrawide เลนส์ประกอบ 6 ชิ้น 8 ล้านพิกเซล มุมมองรับภาพ 120 องศา รูรับแสง f/2.4
ตัวเซ็นเซอร์กล้องหลักของ Y9s มีขนาดใหญ่ถึง 1/2 นิ้ว ให้พื้นที่รับแสงได้มากกว่า พร้อมด้วยระบบอัลกอริทึมของ AI ที่ช่วยให้การถ่าย Night Mode ออกมาเคลียร์ สว่าง คมชัด
ขณะที่โหมดถ่ายภาพพื้นฐานก็จัดมาให้ครบ รองรับการถ่ายวีดีโอ ความละเอียดสูงสุด 1080p@30fps มีกันสั่น EIS และโหมดถ่ายวีดีโอ Slowmotion ที่ 480fps
สำหรับกล้องหน้าป๊อปอัพของรุ่นนี้ใส่มาให้ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มี AI HDR ดึงความสว่างคมชัดออกมาทั้งจากตัวแบบและฉากหลัง, AI Scene Recognition ที่ตรวจจับได้ 8 ฉาก และ AI beauty เพื่อความงามในการเซลฟี่
ตัวอย่างภาพถ่ายของ Huawei Y9s
ปิดท้ายกันด้วยราคาและการวางจำหน่าย Huawei Y9s เปิดตัวมากับราคา 7,990 บาท
พิเศษ!! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคมนี้ รับเลย Huawei Mini Speaker มูลค่า 1,090 บาท และลูกค้าที่สั่งจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, dtac และ Truemove H สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,490 บาทเท่านั้น