4 เหตุผลที่ทำให้ Xiaomi 14T Series เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงสุดคุ้มค่าแห่งปี 2024

โดย RingRangRung | 3 มกราคม 2568 เมื่อ 08:00 น.
4 เหตุผลที่ทำให้ Xiaomi 14T Series เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงสุดคุ้มค่าแห่งปี 2024

ปี 2024 เป็นปีที่ตลาดสมาร์ทโฟนแข่งขันกันดุเดือด และจากการที่เรามีโอกาสลองใช้งานมือถือมาหลายรุ่นก็ต้องยอมรับว่า Xiaomi 14T Series คือมือถือที่โดดเด่น ซึ่งนี้ก็เป็น 4 เหตุผลที่เราอยากจะยกให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็น “Smartphone of the Year ประจำปี 2024”

1. กล้องที่เหนือกว่าใคร “Master light, capture night”

Xiaomi 14T Series เปิดตัวมากับสโลแกน “Master light, capture night” แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพด้านการถ่ายภาพในระดับมืออาชีพด้วยเทคโนโลยีกล้องที่ทำงานร่วมกับ Leica (co-engineered with Leica)

ความคุ้มค่าที่จะได้จากรุ่นนี้คือทั้งตัวมาตรฐาน และรุ่น Pro จะมาพร้อมเลนส์ออปติคอล Summilux จาก Leica ซึ่งเป็นเลนส์ในฝันของช่างภาพหลายๆ คน และนี้จะเป็นโอกาสทองที่เราจะได้สัมผัสความงดงามจากเลนส์ตัวนี้ในราคาหมื่นต้นๆ แถมยังนำให้ระยะเลนส์มากสูงสุดถึง 5 ระยะ ตอบโจทย์การถ่ายภาพในสไตล์ต่างๆ

กล้องหลัง 3 ตัว ของ Xiaomi 14T Pro ใช้เลนส์ออปติคอลระดับโปรอย่าง LEICA VARIO-SUMMILUX 1:1.6-2.2/15-60 ASPH ประกอบไปด้วย

  • กล้องหลัก Leica 23mm. 50MP เซ็นเซอร์ Light Fusion 900, 4-in-1 Super Pixel ขนาด 2.4µm, f/1.6 มี OIS
  • กล้อง Leica Telephoto 60mm. 50MP, f/2.0
  • กล้อง Leica Ultra-wide 15mm. 12MP, f/2.2, FOV 120˚

ส่วน Xiaomi 14T ใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX 1:1.7-2.2/15-50 ASPH กล้องหลังติดมา 3 ตัว ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก Leica 23mm. 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX906, 4-in-1 Super Pixel ขนาด 2.0µm, f/1.7, OIS
  • กล้อง Leica Telephoto 50mm. 50MP, f/1.9
  • กล้อง Leica Ultra-wide 15mm. 12MP, f/2.2, FOV 120˚

การผสมผสานที่ยอดเยี่ยมระหว่างเทคโนโลยีและกลไกก็ช่วยให้กล้องของ Xiaomi 14T Series โดดเด่นในการเก็บภาพแสงและเงา

ในรุ่น Xiaomi 14T Pro มีเซ็นเซอร์กล้องหลัก Light Fusion 900 ที่ใหญ่ 1/1.31 นิ้ว มีเทคเทคโนโลยี Dual ISO Fusion Max ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ทำให้มีความไวแสงที่ยอดเยี่ยม โดยมีช่วงไดนามิกดั้งเดิมสูงถึง 13.5 EV ที่นำเสนอความสามารถ HDR แบบเฟรมเดียว ช่วยให้ผู้ใช้ได้เห็นเอฟเฟกต์ HDR แบบเรียลไทม์ตั้งแต่ก่อนถ่าย รวมถึงลดการเกิดภาพซ้อน (Ghosting) เมื่อถ่ายวัตถุเคลื่อนไหว

ส่วน Xiaomi 14T รุ่นมาตรฐาน มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ภาพ Sony IMX906 มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ถึง 1/1.56 นิ้ว และซุปเปอร์พิกเซลขนาด 2.0μm มอบช่วงไดนามิกที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยรูรับแสดง f/1.7 และ OIS ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยโดดเด่นไม่แพ้รุ่น Pro

อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ Xiaomi 14T Pro และ Xiaomi 14T ก็คือการมีอัลกอริทึมการประมวลผลภาพ AI อย่าง Xiaomi AISP ที่ใช้โมเดล Stable Diffusion โดยประกอบไปด้วยโมดูลหลัก 4 ตัว ได้แก่

  • FusionLM : หัวใจหลักของระบบ Xiaomi AISP ซึ่งสามารถประมวลผลภาพ RAW ได้สูงสุดถึง 8 ภาพจากเซนเซอร์ภาพ Light Fusion 900 โดยแต่ละภาพมีความลึกของสีสูงสุดถึง 14bit โดยการวิเคราะห์ข้อมูลแสงสำหรับแต่ละพิกเซลอย่างละเอียดจะรวมภาพเหล่านี้เป็นไฟล์ RAW แบบลิเนียร์ 21bit
  • ToneLM : โมดูลที่จะจับคู่โทนสีกับข้อมูล RAW ในโดเมนความสว่าง ที่รักษาความสัมพันธ์แบบลิเนียร์ระหว่างโทนสีภาพ ซึ่งช่วยลดสิ่งแปลกปลอมในภาพคอมโพสิตให้เหลือน้อยที่สุด และลดความเสี่ยงที่จะเกิดรูปลักษณ์ที่ปลอมแปลง
  • ColorLM : วิเคราะห์ข้อมูล RAW ร่วมกับเทคโนโลยี 3D LUT แบบดั้งเดิม เพื่อประมวลผลข้อมูลสีในระดับพิกเซลอย่างแม่นยำ
  • PortraitLM : มากับความสามารถวิเคราะห์เชิงความหมายของภาพถ่ายบุคคล เพื่อการแบ่งส่วนวัตถุและพื้นหลังอย่างละเอียด และจำลองเส้นทางแสงของเลนส์ กับรูปแบบโบเก้ในพื้นหลัง เพื่อเลียนแบบเทคนิคของช่างภาพมืออาชีพ

เพื่อให้เต็มอิ่มกับความเป็นสุดยอดแบรนด์กล้องจากเยอรมัน ในโหมดกล้องของ Xiaomi 14T Pro และ Xiaomi 14T ก็จะมีตัวเลือก โทนการถ่ายภาพของ Leica ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Leica Vibrant ที่เน้นความสดชื่นแจ่มใส และ Leica Authentic ที่เน้นความเป็นธรรมชาติและสมจริง พร้อม Leica filters กับ โหมดถ่ายภาพบุคคลสไตล์ Leica

ตัวอย่างภาพจากกล้อง Xiaomi 14T Series

2. พลังแห่ง AI ยุคใหม่

Xiaomi 14T Series เป็นมือถือที่จะพาผู้ใช้ก้าวเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว โดยร่วมมือกับ Google และ Microsoft Azure เพื่อปรับปรุงการทำงานของ AI ทั้งในคลาวด์และบนอุปกรณ์ โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ ทั้ง

  • Gemini Assistant: คุยกับผู้ช่วย AI จาก Google ซึ่งเป็นหนึ่งใน AI ที่ฉลาดที่สุดในปัจจุบัน 
  • Circle to Search: ให้ Google ค้นหาสิ่งที่เห็นบนหน้าจอได้ทันทีเพียงแค่วาด วงกลมไฮไลต์สิ่งที่ต้องการ โดยไม่ต้องแคปหน้าจอแล้วโยนเข้า Google Lens
  • AI Interpreter: คุณสมบัติการแปลแบบเรียลไทม์โดยมีโหมดการทำงาน 2 โหมดหลัก ได้แก่ การแปลแบบเห็นหน้า (face-to-face)  และการแปลทางโทรศัพท์/การประชุม (Phone/conference call) ซึ่งปัจจุบันระบบรองรับ 12 ภาษา ได้แก่ จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส อิตาลี เยอรมัน รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ฮินดี อินโดนีเซีย โดยมีแผนจะเพิ่มภาษา ไทย มาเลย์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ผ่านการอัพเดต OTA ในเร็วๆ นี้
  • AI Photo Edit: ยกระดับการแก้ไขภาพด้วยความอัจฉริยะของ AI ไม่ว่าจะเป็น
  • AI Image Expansion ให้ AI ช่วยเติมเต็มขยายพื้นที่โดยรอบของภาพถ่ายต้นฉบับ และ AI Magic Removal Pro ลบสิ่งที่ไม่ต้องการในภาพ พร้อมเติมเต็มสิ่งใหม่เข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติ

นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะ Xiaomi 14T Series ยังมีชุดเครื่องมือ AI ให้ใช้งานอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น AI Message Assistant, AI Recorder, AI Notes, AI Video Subtitles, AI Portrait และ AI Film เรียกว่าถ้าได้ไปหลังจากนี้ชีวิตจะง่ายขึ้นกว่าที่เคยอย่างแน่นอน

3. สเปกแรงจัดเต็ม ไม่มีคำว่า “กั๊ก”

Xiaomi 14T Series มากับชิปประมวลผลระดับแถวหน้าของวงการ ในรุ่น 14T Pro ใช้ชิป MediaTek Dimensity 9300+ สถาปัตยกรรมระดับ 4nm ประมวลผล Octa-core กำลังสูงสุด 3.4GHz มี GPU Immortalis-G720 MC12 และมี MediaTek NPU 790 มาช่วยด้าน Generative AI

หน่วยความจำเป็น ROM UFS 4.0 + LPDDR5X RAM 8533Mbps ตัวเลือกความจำ 12GB + 512GB กับ 12GB + 1TB พร้อมฟีเจอร์ Ultra Space ได้อีก 12GB

ขณะที่ Xiaomi 14T ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8300-Ultra สถาปัตยกรรมระดับ 4nm เช่นกัน ประมวลผลเป็น Octa-core กำลังสูงสุด 3.35GHz มี GPU Arm Mali G615-MC6 และมี MediaTek NPU 780 มาช่วยงาน AI ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM 12GB (LPDDR5X) และ Storage 256/512GB (UFS 4.0)

สเปกทั้งสองรุ่นเรียกว่าแรงรองรับทั้งการใช้งานทั่วไป การเล่นเกม และด้านเอนเตอร์เทนเมนต์อย่างลงตัว นับว่าคุ้มที่สุดในตอนนี้ พร้อมเสริมด้วยระบบระบายความร้อน Xiaomi 3D IceLoop ช่วยให้ใช้งานนานๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ถูกขัดจังหวะจากอาการเครื่องร้อน

ความคุ้มค่าอีกอย่างหนึ่งของ Xiaomi 14T Series เครื่องระบบชาร์จ โดยที่ตัว  14T Pro ได้ HyperCharge แบบมีสาย 120W แถมเพิ่ม Wireless HyperCharge 50W เป็นครั้งแรกสำหรับซีรีส์ T ขณะที่รุ่นมาตรฐานได้ HyperCharge 67W ส่วนแบตเตอรี่ใส่มาให้เท่ากัน 5,000mAh

4. หน้าจอ CrystalRes AI 144Hz กับดีไซน์พรีเมียม

Xiaomi 14T Series มีจอแสดงผลระดับเรือธงล้ำสมัยที่ผสมผสานการออกแบบขั้นสูง และนำ AI มาเสริมฟังก์ชันการทำงาน

Xiaomi 14T Pro และ Xiaomi 14T มีขอบจอที่บางเพียง 1.7 มิลลิเมตร ที่ด้านบน ด้านซ้าย และด้านขวา ขณะที่ขอบด้านล่างบางเพียง 1.9 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่กว้างถึง 93.6%

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2712×1220 พิกเซล) 446 ppi อัตราส่วน 20:9 รีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz AdaptiveSync ให้ความสว่าง 1600 nits (typ) และสว่างสูงสุด 4000 nits (peak) สู้แดดจ้าสบาย ๆ พร้อมรองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ HDR10

ขณะเดียวกัน Xiaomi ยังเอาเทคโนโลยี AI มาช่วยในการใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ปรับเปลี่ยนได้และเป็นมิตรกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็น

  • AI Auto Brightness: ปรับความสว่างโดยการเรียนรู้พฤติกรรมและสถานการณ์ของผู้ใช้
  • AI Video with Local Mapping: ใช้อัลกอริธึมเพื่อให้การรับรู้เชิงลึกและสีที่สมจริง
  • AI Adaptive Colors: ปรับอุณหภูมิสีอย่างแม่นยำตามแสงโดยรอบและเนื้อหาการรับชม
  • AI Touch Control: เพิ่มความไวต่อการสัมผัสเมื่อสวมถุงมือ ใช้ฟิล์มกันรอย หรือมือเปียก
  • AI Eye-Care: รองรับการหรี่แสงแบบ PWM 3840Hz ในสภาพแสงน้อยและการหรี่แสง DC ในสภาพแสงปกติ

Xiaomi 14T Series มากับดีไซน์ที่เรียบหรูดูพรีเมียมโดยมี สี Titan Black, Titan Blue และ Titan Gray ใช้วัสดุฝาหลังเป็นกระจก ยกเว้นสี Lemon Green ที่จะใช้วัสดุฝาหลังเป็นหนัง PU นอกจากนี้ฝาหลังของ 14T Pro จะเป็นแบบโค้งมนเล็กน้อย ขณะที่ 14T ที่เป็นแบบเรียบแบน

เรื่องการใช้งานประจำวันก็หายห่วงเนื่องจากมีมาตรฐานกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 สามารถทนต่อการจมน้ำลึก 2 เมตร เป็นเวลา 30 นาที ซึ่งเพิ่มขึ้นจากมาตรฐานก่อนหน้าที่ 1.5 เมตร

Xiaomi 14T Series มือถือซีรีส์เรือธง สเปกจัดเต็มที่สุดของความคุ้มค่าในปี 2024

Xiaomi 14T Series เป็นสมาร์ทโฟนที่เราขอยกให้เป็น Smartphone of the Year สำหรับมือถือในกลุ่มราคาหลักหมื่นต้นๆ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งการถ่ายภาพ ความสามารถ AI การประมวลผล หน้าจอและดีไซน์ ซึ่งถ้าใครมีโอกาสก็อยากให้ลองสัมผัสแล้วคุณจะรู้สึก ในแบบที่เรารู้สึกเช่นกัน

สำหรับราคา Xiaomi 14T Seriesในประเทศไทย มีดังนี้

  • Xiaomi 14T Pro = 3 สี คือ Titan Black, Titan Blue, Titan Gray ด้วย 2 หน่วยความจำให้เลือก คือ 12GB+1TB ราคา 21,990 บาท และ 12GB+512GB ราคา 24,990 บาท
  • Xiaomi 14T = 4 สี คือ Titan Black, Titan Blue, Titan Gray, Lemon Green มี 2 หน่วยความจำให้เลือก คือ 12GB+512GB ราคา 15,990 บาท และ 12GB+256GB ราคา 17,990 บาท

รีวิว Xiaomi 14T Series คู่หูกล้อง Leica ตัวคุ้ม สเปกแน่นเหมือนเดิม แถมเพิ่ม AI จัดเต็ม
เปิดตัว Xiaomi 14T Pro | 14T คู่หูตระกูล T Series รุ่นใหม่ ดีไซน์พรีเมียม กล้อง Leica เจ๋งขึ้น พร้อม AI จัดเต็ม
เปิดราคาไทย Xiaomi 14T Series เริ่มต้น 15,990 บาท จองล่วงหน้ารับของแถม ฟรี! ถึง 11 ต.ค. 67

About Author

RingRangRung

RingRangRung

Partners