เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นล่าสุดของ Motorola ที่เข้ามาทำตลาดในไทย สำหรับ Moto X4 ซึ่งมีความโดดเด่นตั้งแต่งานดีไซน์ การเลือกใช้วัสดุตัวเครื่อง มีฟังค์ชั่นการใช้งานที่โดดเด่น ใช้กล้องหลังคู่ตามสมัยนิยม และแน่นอนว่าเป็น Pure Android รับประกันการอัพเดตยาวๆ
ส่วนสเปคของ Moto X4 มีดังนี้
- จอ LTPS IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full-HD (1080 x 1920p) อัตราส่วนการแสดงผล 16:9 คลุมด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
- ขนาดเครื่อง 148.4 x 73.4 x 7.99 ม.ม. น้ำหนัก 165.5 กรัม
- ชิป Snapdragon 630 ประมวลผล Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz และ GPU Adreno 508 ความเร็ว 650 MHz
- รุ่นที่เข้าไทย RAM 4GB ความจำตัวเครื่อง (ROM) 64GB รองรับ Micro SD สูงสุด 2TB
- กล้องหลังคู่ใช้ระบบโฟกัส PDAF กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล Optical Zoom X2 ค่ารูรับแสง f/2.0 กล้องรอง 8 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ไวด์ให้มุมมองรับภาพ 120 องศา ค่ารูรับแสง f/2.2 ใช้แฟลช dual-tone LED รองรับการบันทึกวีดีโอความละเอียดสูงสุด [email protected]
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับการบันทึกวีดีโอในระดับ 1080p และมีแฟลช LED
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. โดยที่มีพอร์ต USB Type-C
- รองรับการทำงาน 2 ซิม (Nano-SIM) แบบไฮบริดจ์สล็อต
- สนับสนุนสัญญาน 4G LTE (Cat. 9), UMTS / HSPA+ GSM / EDGE / 2G: GSM band 2/3/5/8 / 3G: WCDMA band 1/2/4/5/8/19 / 4G: FDD LTE band 1/3/4/5/7/8/18/19/26/28 TDD LTE band 38/40/41
- รองรับ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, 2.4GHz + 5GHz, Wi-Fi hotspot
- รองรับสัญญาน Bluetooth 4.2, GPS, GLONASS และสนับสนุน NFC
- แบตเตอรี่ 3000mAh ไม่สามารถถอดได้ มีเทคโนโลยี TurboPower 15W
- การป้องกันน้ำระดับ IP68
- สีที่วางขาย ดำ (Super Black), ฟ้า (Sterling Blue)
- รันกับ Android 7.1 ,Nougat
- ราคาในไทย 14,990 บาท
แพ็คเกจของ Moto X4 เป็นกล้องสีฟ้าวางโลโก้ Motorola ไว้ตรงกลางใหญ่ๆชัดๆ ขณะที่ด้านล่างเป็นชื่อรุ่น Moto X4 ขณะที่ภายในก็ให้อุปกรณ์พื้นฐานมาครบครันทั้ง
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้า
- สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- อะแดปเตอร์รองรับเทคโนโลยี TurboPower จ่ายไฟ 5V3A / 9V1.6A / 12V1.2A
- หูฟังอินเอียร์แบบมาตรฐานขนาด 3.5 มม. สีขาวพร้อมด้วยจุกหูฟังขนาดต่างๆ
Moto X4 ผลิตด้วยวัสดุเกรดพรีเมี่ยมตั้งตัวเฟรมที่เป็นอะลูมิเนียมชุบ (Anodized Aluminum) คลุมด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเครื่อง ตัดขอบแบบ Diamon-cut ให้ฟิลสัมผัสที่ดีมากๆ แถมยังมีการซีลกันน้ำ กันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำได้ในระดับความลึก 1.5 เมตร เป็นระยะเวลา 30 นาที
ส่วนสีที่นำมาวางขายในไทยมี สีดำ (Super Black) กับ สีฟ้า (Sterling Blue) ซึ่งเครื่องที่เราได้มาทำรีวิวเป็นสีดำ (Super Black) ครับ
ด้านงานดีไซน์มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับ Motorola ไล่กันมาตั้งแต่ส่วนของกล้องหลังที่มีลักษณะเป็นวงกลมทรงนูนทำลวดลายเป็นขีดรอบๆ เหมือนกับหน้าปัดของนาฬิกา โดยที่มีแฟลช dual-tone LED ติดอยู่เหนือเลนส์กล้อง ส่วนด้านล่างของกล้องก็เป็นโลโก้ปีกค้างคาว (Batwing)
ขณะที่หน้าจอเป็น LTPS IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD ระดับความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 424 PPI ใข้อัตราส่วนการแสดงผล 16:9 กินพื้นที่ด้านหน้าของเครื่อง 64.8% มีระดับความสว่าง การเกลี่ยสีรวมไปถึงมิติของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ขณะที่ระบบ Multitouch รองรับสูงสุด 10 จุดครับ
พื้นที่เหนือหน้าจอตรงกลางจะเป็นลำโพง ซึ่งเป็นทั้งลำโพงสนทนาและลำโพงสำหรับฟังเพลงในตัวเดียวกันเสียงดังใช้ได้ ด้านซ้ายจะเป็นไฟแฟลช ส่วนด้านขวาเป็นกล้องเซลฟี่
ด้านล่างของจอจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และยังเป็นปุ่มสำหรับฟังค์ชั่น One Button nav สำหรับควบคุมการทำงานต่างๆอย่าง Home, Back, และ Recent app ภายในปุ่มเดียว
พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นช่อง USB Type-C หรือช่องหูฟัง 3.5 มม.จะอยู่ด้านล่างของเครื่องครับ ส่วนขอบด้านบนจะเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบไฮบริดจ์สล็อต โดยที่มีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power ที่มีการขัดสากเพื่อสัมผัสที่แตกต่างอยู่ฝั่งขวาของเครื่อง
Moto X4 ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 7.1 มาจากโรงงาน โดยที่มีรูปลักษณ์ของ Pure Android ที่มีการเพิ่มฟังค์ชั่นบางอย่างจากผู้ผลิตแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งข้อดีของการเป็นมือถือเลือดบริสุทธิ์แบบที่เห็นกันอย่างชัดเจนเลยคือเรื่องของระบบที่จะค่อนข้างลื่นไหล หน้าตา UI ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน และจะได้รับการอัพเดตเป็น Android 8 Oreo อย่างแน่นอน
ชิปเซ็ตของรุ่นนี้เป็น Snapdragon 630 ประมวลผล Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz และ GPU Adreno 508 ความเร็ว 650 MHz ด้านสเปคที่นำเข้ามาขายในไทยเป็นรุ่นท็อป RAM 4GB ความจุตัวเครื่อง (ROM) 64GB รองรับหน่วยความจำเสริม microSD สูงสุด 2TB (อีกรุ่นที่ไม่เข้ามาจะเป็น RAM 3GB+ROM 32GB)
ด้านคะแนนการประมวลผลจากการทดสอบบนแพลตฟอร์ม AnTuTu Benchmark อยู่ที่ 69920 คะแนน ส่วนคะแนนจากทาง Geekbench 4 การประมวลผลแบบ Single-Core ได้ 842 คะแนน ถ้าเป็น Multi-Core ได้ 4083 คะแนน นับว่ามีประสิทธิภาพครอบคลุมการใช้งานในระดับทั่วไป เล่นเกมลื่นไหล และยังประหยัดพลังงานถึงจะให้แบตเตอรี่มาแค่ 3,000mAh ก็ตาม
การจับสัญญานของ moto X4 ก็ทำได้ดีไม่มีปัญหาครับ โดยที่ทาง Motorola ประเทศไทย ยืนยันมาแล้วว่าสามารถจับสัญญาน 4G ได้สูงสุด 3 คลื่น หรือ 3CA กันเลยทีเดียว ให้เสียงสนทนาชัดระดับ HD ผ่าน VoLTE ซึ่งในรุ่นนี้มีไมโครโฟนติดตั้งมาให้ 3 จุดอยู่ที่ขอบด้านบน, ด้านหน้าใต้จอ และด้านหลังเครื่อง
ส่วนสัญญาน WiFi ก็รองรับทุกความถี่ 802.11a/b/g/n/ac ขณะที่การเชื่อมต่อแบบไร้สายก็มีให้ครบทั้ง NFC ที่มีฟีเจอร์ Tap and Pay และยังมีเทคโนโลยี Bluetooth 4.2 ส่วนการจับสัญญาณ GPS ก็ทำได้รวดเร็ว แม่นยำ
Moto X4 มีระบบ Wireless Sound Systems สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์สัญญาณเสียงที่เป็นระบบ Wi-Fi ได้ด้วยด้วย หรือจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สัญญานเสียงที่เป็น Bluetooth ก็ทำได้สูงสุด 4 อุปกรณ์พร้อมกัน โดยที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ทำงานแยกกันหรือรวมกันเพื่อทำเป็นระบบเสียงสเตอริโอ แต่จะต้องเลือกเอาว่าจะเป็น Bluetooth หรือ Wi-Fi เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
สำหรับเซ็นเซอร์ก็ใส่มาให้ครบตามมาตรฐานจากการใช้ Sensor Box เช็คดูก็มีทั้ง Accelerometer Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor
ด้านการใช้งาน Moto X4 ก็มีซอฟต์แวร์พิเศษที่เรียกว่า Moto Experiences มาให้ใช้กัน ซึ่งฟีเจอร์ตัวนี้ทำให้การใช้งานหลายๆอย่างง่ายขึ้นมากๆครับ ไม่ว่าจะเป็น
Moto Key : ระบบล็อกอินเข้าใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ อาทิเช่น PC หรือ Notebook ด้วยการสแกนลายนิ้วมือจากตัวสมาร์ทโฟน ซึ่งก็ต้องมีการลงโปรแกรมบนอุปกรณ์ และเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาน Bluetooth
Moto Actions : เรียกใช้งานฟังค์ชั่นต่างๆ ด้วยท่าทาง อาทิเช่น พลิกเครื่อง 2 รอบเพื่อเปิดกล้อง, แตะ 3 นิ้วบนจอเพื่อจับภาพหน้าจอ หรือสับเครื่องเพื่อเปิดใช้งานไฟฉาย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโหมด One-Button Nav หรือการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือแทนปุ่ม Nav ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Home, Back, และ Recent app ถ้าเราเปิดใช้งานฟังค์ชั่นนี้พวกปุ่มที่ว่าซึ่งปกติขึ้นในแถบด้านล่างของจอก็จะหายไปทำให้มีพื้นที่การทำงานบนหน้าจอเพิ่มขึ้นมาอีกนิดนึงครับ
Moto Display : ฟีเจอร์การปรับหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานโดยอัตโนมัติ ไม่ว่า Night Display โหมดตัดแสงสีฟ้าสำหรับใช้งานในเวลาค่ำคืน และ Moto Display แสดงการแจ้งเตือนในระหว่างที่จอปิดอยู่ โดยที่ไม่ต้องแตะปลุก
Moto Voice : ระบบสั่งการทำงานด้วยเสียง ที่ใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และยังสั่งได้แม้จอจะดับอยู่
นอกจากนี้ตัว Moto X4 ยังรองรับระบบ Multi window หรือการใช้งานสองหน้าจอสองแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน ที่เรียกใช้ง่ายๆครับ แค่เปิดหน้า Recent app แล้วกดค้างไปที่ตัวแอปฯที่ต้องการจะใช้งานโหมดแยกหน้า ถ้าแอปฯรองรับกับฟังค์ชั่นดังกล่าวก็จะสามารถลากขึ้นไปใส่ที่ครึ่งหน้าจอด้านบนได้ ขณะที่พื้นที่ด้านล่างก็เปิดอีกแอปฯมาใช้ตามปกติ
ด้านการถ่ายภาพก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Moto X4 ครับ ซึ่งนับว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่สองของ Motorola ต่อจาก Moto G5s Plus ที่มาพร้อมกับกล้องคู่ สำหรับสเปคกล้องหลังแบบคู่จะประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ขนาดเม็ดพิกเซล 1.4µm มีระบบโฟกัส PDAFและเทคโนโลยี Dual Pixel ขณะที่กล้องรองจะเป็นเลนส์ไวด์ที่มีมุมมองรับภาพกว้างถึง 120 องศา รูรับแสง f/2.2 ขนาดเม็ดพิกเซล 1.12µm
กล้องหลังของรุ่นนี้มาพร้อมแฟลช dual-tone LED มีให้เลือกถ่ายแบบ HDR ขณะที่หน้าตา UI ก็ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน สำหรับโหมดถ่ายภาพด้วยกล้องหลังให้เลือกเล่นทั้ง
Professional mode : ที่เราสามารถปรับเองได้ตั้งแต่การโฟกัส, White Balance ที่มีให้เลือก 4 ระดับ ,ตัว Spreed Shutterเลือกได้ตั้งแต่ 1/3 ไปถึง 1/6000, ค่า ISO ดันได้ตั้งแต่ 100-3200 และการชดเชยแสงที่เลือก +/- ได้ 2 Stop
Face Filters : เป็นลูกเล่นการใส่สติ๊กเกอร์เข้าไปที่หน้าของแบบ ซึ่งมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะสักเท่าไรแถมโหลดเพิ่มก็ไม่ได้ด้วย ก็เอาไว้ถ่ายกันขำๆแล้วกัน
Depth enabled : โหมดถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอซึ่งผลที่ได้ก็จัดว่าน่าพอใจครับสามารถเก็บขอบได้เนียนเป็นธรรมชาติ แต่อาจจะมีอาการหน่วงนิดๆเมื่อเปิดใช้งานในโหมดนี้ ความพิเศษของภาพที่ถ่ายจากโหมดนี้คือเราสามารถใช้ซอฟต์แวร์ที่ติดมากับเครื่อง “Depth Editor” ในการตัดแยกตัวแบบออกมาจากฉากหลัง เพื่อเอาไปใส่ลูกเล่นทำฉากเป็นภาพ ขาว-ดำ หรือตัดต่อเข้ากับฉากหลังใหม่ได้ตามต้องการ
Panorama : โหมดถ่ายภาพแบบพาโนรามาปกติไม่มีอะไรพิเศษครับ
Spot Color : จะบอกว่า Moto X4 เป็นรุ่นแรกที่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ก็ว่าได้ ซึ่งก็คือการเลือกสีที่ต้องการโฟกัสจากในภาพ ในขณะที่สีอื่นๆจะถูกตัดออกจนกลายเป็นภาพขาว-ดำ แทน
นอกเหนือจากโหมดที่กล่าวมาแล้วในกล้องของ Moto X4 ยังมีตัวเลือกให้เรากดสลับไปใช้กล้องรองที่เป็นเลนส์ Ultra-wide ได้ด้วยครับ แน่นอนว่ามุมมองรับภาพที่ได้ก็จะกว้างขึ้นกว่าเลนส์ปกติหลายเท่า ขณะที่ตัวขอบภาพจะบิดโค้งงอเล็กน้อยตามธรรมชาติของเลนส์ ลูกเล่นนี้ถูกใจคนที่ชอบถ่ายภาพวิวแน่นอนครับ
อีกหนึ่งความสามารถของกล้องรุ่นนี้คือการเป็น Smart Camera โดยที่มีฟีเจอร์ “Landmark Detection” เพียงแค่ส่องกล้องไปยังวัตถุหรือสถานที่ต่างๆ ระบบของกล้องก็จะจับภาพและหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ วัตถุหรือสถานที่ในภาพนั้นมาให้โดยค้นหาผ่าน Bing (หรืออาจจะ Search Engine ตัวอื่นให้เลือก แต่หาที่กดเปลี่ยนไม่เจอจริงๆ)
สำหรับการบันทึกวีดีโอด้วยกล้องหลังรองรับสูงสุดที่ 4K Ultra HD (30fps) มีโหมด Face Filters ให้ใช้เหมือนภาพนิ่ง พร้อมด้วยโหมด Slow Motion ขณะที่ไมค์บันทึกเสียงก็มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancelling)
มาดูที่กล้องหน้ากันบ้างความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เม็ดพิกเซล 1um มาพร้อมแฟลชเซลฟี่ในตัว และมีโหมด Beauty ปรับได้ 7 ระดับ พร้อมด้วยการถ่ายแบบ HDR ขณะที่โหมดการใช้งานก็มีทั้ง Professional mode ที่ปรับได้เหมือนกับกล้องหลังแค่ไม่มีโฟกัสมาให้เลือก ,Face Filters และ Panorama ส่วนการบันทึกวีดีโอรองรับสูงสุดที่ Full HD 1080p (30fps)
จากการลองเล่นลองใช้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาได้สักระยะก็ต้องยอมรับเรื่องการดีไซน์ เลือกใช้วัสดุ ที่ทำมาได้โอเคเลยทีเดียว สเปคแรงประมวลผลต่างๆถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ขณะที่แบตเตอรี่ถือว่าอึดเอาเรื่องเมื่อรวมกับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง TurboPower charging ก็จัดว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่มีปัญหา
มาดูที่การถ่ายภาพกันระบบกล้องหลังคู่ทำมาได้น่าสนใจติดที่ลูกเล่นอาจจะน้อยไปนิดและที่ประทับใจจริงๆเลยคือตัวเลนส์ Ultra-wide ที่สลับใช้งานง่าย เก็บภาพและบรรยากาศได้ครบ ตามมุมมองภาพที่ตาเห็น ขณะที่โหมด Depth enabled ถ้าไม่นับเรื่องอาการหน่วงแล้วก็จัดได้ว่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ สำหรับการเซลฟี่จัดว่าดีไม่มีปัญหาแม้เจอสภาพแสงน้อย โหมด Beauty เป็นธรรมชาติไม่หลอกตา
ราคาค่าตัวของ Moto X4 อยู่ที่ 14,990 บาท สามารถหาซื้อได้แล้วที่ Trueshop, Jaymart, TG Fone, Big C และ Banana IT หรืออีกช่องทาง Motorola Thailand Official Store บน Lazada
พิเศษ! สำหรับลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ หรือย้ายค่ายมาใช้ TrueMove H สามารถเป็นเจ้าของเครื่องนี้ได้ในราคา 9,990 บาท เมื่อซื้อพร้อมเปิดแพ็กเกจรายเดือน 4G+ Fun Unlimited 559 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท นับว่าเป็นตัวเลือกสมาร์ทโฟนระดับกลางอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจครับ
ตัวอย่างภาพจากกล้องของ Moto X4 ในสภาวะต่างๆ (ใช้โหมด Auto)