ยอมรับกันตรงๆแบบนี้ก็ได้เหรอ!? เมื่อ Richard Yu หรือ Yu Chengdong ซีอีโอของ Huawei แบรนด์สมาร์ทยักษ์ใหญ่จากจีนที่ออกมาชี้แจงหลังมีข้อสงสัยเรื่องที่ว่าเรือธง Huawei P10 / P10 Plus โมเดลที่วางจำหน่ายในจีนอาจจะมีโมเดลที่ใช้ชนิดหน่วยความจำภายในไม่ตรงกับที่ควรจะเป็น
ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้ใช้นำเรือธง Huawei P10 ไปทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่องผ่านแอพ Androbench 5.0 ซึ่งพบว่าแม้จะใช้สมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกันแต่กลับได้ผลการทดสอบความเร็วในการอ่านและการเขียนของหน่วยความจำภายใน (internal storage) ที่ออกมาแตกต่างกันอย่างชัดเจน จนทำให้มีข้อสงสัยว่าเรือธงรุ่นนี้อาจจะมีการคละประเภทของ RAM และหน่วยความจำภายใน โดยเครื่องที่ใช้หน่วยความจำแบบ UFS 2.1 จะได้ความเร็วในการอ่านที่เกิน 700MBps ส่วน UFS 2.0 จะอยู่ที่ 500MBps และ eMMC 5.1 จะอยู่ที่ 300MBps โดยประมาณ
ล่าสุดทางซีอีโอของ Huawei ก็มีการเคลื่อนไหวด้วยการโพสต์ชี้แจงผ่าน Weibo สังคมออนไลน์ของจีน โดยโยงกันมาตั้งแต่ข้อที่ถกเถียงที่ว่า P10 บางเครื่องไม่มีการเคลือบ Oleophobic Coating ป้องกันรอยนิ้วมือมาบนหน้าจอ จนมาถึงเรื่องที่ว่า P10 มีทั้งโมเดลที่ใช้หน่วยความจำแบบ UFS และ eMMC
ในเรื่องหน่วยความจำ Richard Yu ได้ชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าวมาจากการที่หน่วยจำแบบ UFS หมดสต๊อก ทำให้ต้องนำหน่วยความจำแบบ eMMC มาใช้แทน เพื่อผลิต P10 /P10 Plus ให้ทันตามความต้องการของตลาด
อย่างไรก็ตามทางซีอีโอแบรนด์ดัง ก็ได้ยืนยันว่าความแตกต่างของชนิดหน่วยความจำไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของเรือธงรุ่นนี้ลดลงแต่อย่างใด เนื่องจาก P10 มีการเพิ่มความสามารถทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาเป็นอย่างดี ซึ่งเขาได้พิสูจน์ด้วยการนำ P10 Plus รุ่นที่มีหน่วยความจำแบบ eMMC และ Mate 9 ที่เป็น UFS มาลองใช้ และพบว่าสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลทั้งสองรุ่น
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวซีอีโอของ Huawei จะออกมาการันตีด้วยตัวเอง แต่ถ้ามองในมุมของผู้ใช้ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหากจ่ายเงินซื้อเครื่องด้วยความคาดหวังที่จะได้สเปคความจำแบบ UFS 2.1 ที่ดีที่สุดมาใช้ แต่กลับได้เครื่องที่เป็นแบบ eMMC ซึ่งถือว่าเป็นสเปคด้อยกว่ามาแทน